ปลัดแต นายก อบจ.สมุทรสาคร คนใหม่ ชูนโยบายเร่งด่วน สู้ภัยโควิด ควบคู่ 7 นโยบายหลัก พัฒนาคน พัฒนาเมือง

ปลัดแต นายก อบจ.สมุทรสาคร คนใหม่ ชูนโยบายเร่งด่วน สู้ภัยโควิด ควบคู่ 7 นโยบายหลัก พัฒนาคน พัฒนาเมือง

ปลัดแต นายก อบจ.สมุทรสาคร คนใหม่ ชูนโยบายเร่งด่วนสู้โควิด ควบคู่ 7 นโยบายหลัก ภายใต้วิสัยทัศน์ “เมืองน่าทำงาน บ้านน่าอยู่อาศัย ก้าวไกลด้วยการศึกษา พัฒนาอย่างยั่งยืน”

เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 22 มกราคม 2564 ที่ห้องประชุมสภา อบจ. สมุทรสาคร นายพงษ์ศักดิ์ เติมสายทอง ประธานสภา อบจ.สมุทรสาคร เปิดการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร สมัยสามัญ สมัยแรก ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2564 โดยมีนายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ. สมุทรสาคร พร้อมด้วย รองนายก อบจ.สมุทรสาคร ที่ปรึกษา และคณะผู้บริหาร ร่วมแถลงนโยบายต่อสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน และสื่อมวลชนที่เข้ารับฟัง

นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ.สมุทรสาคร กล่าวแถลงนโยบายว่า ตนและคณะ ขอทำงานรับใช้พี่น้องชาวสมุทรสาครอย่างต่อเนื่องภายใต้วิสัยทัศน์ “เมืองน่าทำงาน บ้านน่าอยู่อาศัย ก้าวไกลด้วยการศึกษา พัฒนาอย่างยั่งยืน” โดยมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง และเท่าเทียมกันบนพื้นฐานของความเป็นจริงที่สามารถทำได้ และตรงความต้องการของประชาชน อันจะนำไปสู่เมืองที่มีการพัฒนาอย่างสร้างสรรค์ ยั่งยืน และเหนือสิ่งอื่นใด จะธำรงไว้ซึ่งความมั่นคงของชาติมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำนุบำรุงศาสนา ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นสำคัญ โดยในส่วนของนโยบายเร่งด่วนนั้น เป็นเรื่องของการร่วมแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ในจังหวัดสมุทรสาคร ที่พบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเมื่อมีการตรวจเชิงรุกในโรงงานอุตสาหกรรมทำให้ประชาชนในจังหวัดสมุทรสาครอยู่ในภาวะเสี่ยงสูงในการได้รับเชื้อโรคดังกล่าว ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพ ดังนั้นทางคณะผู้บริหาร อบจ.สมุทรสาคร จึงได้กำหนดนโยบายเร่งด่วน โดยมุ่งเน้นที่จะส่งเสริมและสนับสนุนการช่วยเหลือทุกภาคส่วนในการป้องกัน ควบคุม รักษา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อทำให้จังหวัดสมุทรสาครกลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็ว

นายอุดมฯ กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับนโยบายอื่นๆ ประกอบไปด้วย 1.นโยบายด้านการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยปัจจุบันการศึกษามีความสำคัญต่อการดำรงชีพและการมีคุณภาพชีวิตที่ดี การก้าวเข้าสู่สังคมที่มีคุณภาพ จำเป็นจะต้องได้รับการศึกษาและพัฒนาทักษะทั้งด้านการเรียนและทักษะชีวิต ระบบการศึกษาในปัจจุบันจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาและบ่มเพาะชีวิตมนุษย์ ดังนั้น ประชาชนทุกคนจึงต้องเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมและมีคุณภาพ , 2.นโยบายด้านสาธารณสุข และคุณภาพชีวิต โดยจะให้ความสำคัญกับการเข้าถึงสิทธิความเท่าเทียม เสมอภาค และครอบคลุมทั้งในด้านสิทธิพื้นฐานการบริการ การรักษาพยาบาล ตลอดจนเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการรักษา ป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพของประชาชน, 3. นโยบายด้านเศรษฐกิจ และส่งเสริมอาชีพ มุ่งเน้นการใช้ความคิดสร้างสรรค์และการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับสังคมและครอบครัวให้สามารถปรับตัวและรองรับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมที่ส่งผลกระทบต่อชีวิต รายได้ ตลอดจนความเป็นอยู่, 4.นโยบายด้านพัฒนาเมือง พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และสาธารณูปโภค เช่น ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาระบบบริการสาธารณูปโภคพื้นฐาน ขยายการให้บริการน้ำประปา-ไฟฟ้า แหล่งน้ำ ระบบการระบายน้ำ ให้เพียงพอต่อความจำเป็นในการดำรงชีวิตของประชาชน และประสานกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและภัยธรรมชาติอย่างยั่งยืน สนับสนุนการนำสายไฟฟ้าลงดินในพื้นที่ที่มีความพร้อมก่อนเป็นอันดับแรก พัฒนาด้านความปลอดภัยทางถนน เพิ่มไฟทางสาธารณะให้เพียงพอ เพื่อลดอุบัติเหตุและจัดการจุดเสี่ยงให้ลดน้อยลง , 5.นโยบายด้านการท่องเที่ยว กีฬา และนันทนาการ เช่น ส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชน ตลอดจนประชาชนได้ออกกำลังกายและเล่นกีฬา ส่งเสริมและสนับสนุนจัดสร้างสนามกีฬาแห่งใหม่ให้มีมาตรฐาน สนับสนุนให้มีพื้นที่สีเขียวในการจัดกิจกรรมนันทนาการในทุกรูปแบบ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และเชิงประวัติศาสตร์ ส่งเสริมและสนับสนุนให้มี Landmark ของเมืองเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว, 6.นโยบายด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ร่วมมือและสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนเพื่อพัฒนาระบบกำจัดขยะมูลฝอยที่มีประสิทธิภาพอย่างเป็นระบบ โดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม จัดทำระบบบริหารจัดการน้ำเสียร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนโครงการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นและเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ติดตั้งระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศ ฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่เสี่ยงเพื่อนำไปสู่การวิเคราะห์แก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องและยั่งยืน และสุดท้าย 7. นโยบายด้านการพัฒนาการเมือง และการบริหาร ส่งเสริมการปกครองตามหลักธรรมาภิบาล ร่วมมือและประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ๆ เพื่อจัดทำแผนพัฒนาในแต่ละท้องถิ่นให้ไปในทิศทางเดียวกัน โดยสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด ส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบความโปร่งใสในการบริหารงานได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการประชุม อบรม สัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับการปกครองท้องถิ่นแก่ประชาชน นักเรียน นักศึกษา เพื่อเป็นการสร้างความเข้มแข็งของการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ส่งเสริมและรณรงค์ให้บุคลากรยึดถือและปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส พร้อมรับการตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอก ส่งเสริมและรณรงค์ให้บุคลากรมีจิตสำนึกด้านคุณธรรม จริยธรรม เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมและสังคม ปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นผู้มีจิตอาสา เป็นแบบอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิต

หลังจากนั้น นายพงษ์ศักดิ์ เติมสายทอง ประธานสภา อบจ.สมุทรสาคร ได้เปิดโอกาสให้สมาชิกสภา อบจ.สมุทรสาคร เสนอชื่อสมาชิกสภาฯ เพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้แทนสมาชิกสภาฯ เพื่อแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการพัฒนาอบจ.สมุทรสาคร คณะกรรมการติดตามและประเมินผลแผนพัฒนา อบจ. คณะกรรมการประสานแผนพัฒนาท้องถิ่นระดับจังหวัด และมีการเลือกคณะกรรมการสภา อบจ.สมุทรสาคร

นอกจากนี้ สมาชิกสภา อบจ.สมุทรสาคร ได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็น เพื่อเป็นข้อเสนอแนะในการทำงานเพื่อสนองตอบความต้องการ และบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดย สจ.สมสัก รอดทยอย ได้เสนอขอแมคโครขุดลอกคูคลองพื้นที่โคกขาม เนื่องจากประชาชนมีอาชีพนาเกลือต้องใช้น้ำมาก , สจ.ฐิติพงษ์ เตละวาณิชย์ มีข้อเสนอแนะว่าควรทำถนนไปพร้อมกับการขุดลอกคูคลอง จะได้ไม่เกิดปัญหาหรือมีผลกระทบจากการทำงาน , สจ.ประสิทธิ์ จุ่นขจร เสนอแนะว่า เครื่องจักรกล ทุกพื้นที่ก็มีความต้องการใช้งาน ขอให้มีการจัดระเบียบการใช้งานเครื่องจักรกลให้เหมาะสมตามลำดับ ตามความจำเป็น เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างทันท่วงที ขอให้มีการจัดอบรมให้ความรู้ ระเบียบต่างๆ ให้สมาชิกสภาฯ เพื่อให้สมาชิกสภาฯ มีความรู้ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ และปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง สมาชิกสภาฯ ประสานสัมพันธ์ สามัคคีกัน ทำงานเชิงรุก สร้างภาพพจน์องค์กร ให้สมกับที่ประชาชนให้ควมไว้วางใจให้เข้ามาบริหารงานใน อบจ.สมุทรสาคร เพื่อดูแลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน สจ.พหล ขำทอง มีข้อเสนอแนะให้จัดหารถน้ำเพิ่ม เพื่อให้เพียงพอกับการใช้งาน และขอให้มีจอด้านหน้าห้องประชุมสภาฯ เพื่อทุกท่านจะได้เห็นหน้าผู้อภิปราย และ สจ.พงษ์ศักดิ์ เติมสายทอง ประธานสภาฯ ได้เสนอแนะเพิ่มเติม ให้สำรวจเครื่องมือในการปฏิบัติงาน เพื่อจัดหาซื้อเครื่องมือ เครื่องจักรกล ให้เพียงพอกับการปฏิบัติงาน ในการช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้อย่างทั่วถึง

นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ.สมุทรสาคร พร้อมคณะผู้บริหาร ได้รับฟังข้อเสนอแนะของสมาชิกสภาฯ พร้อมรับข้อเสนอของสมาชิกสภาฯ ทุกท่าน และนำไปวางแผนงานเพื่อการดำเนินงาน และปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในจังหวัดสมุทรสาครต่อไป

Related Articles