สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ทุ่มงบ 10 ล้าน จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม แห่งที่ 10 ที่สมุทรสาคร

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ทุ่มงบ 10 ล้าน จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม แห่งที่ 10 ที่สมุทรสาคร

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 นายอภิสิทธิ์ เตชะนิธิสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า โรงพยาบาลสนาม จังหวัดสมุทรสาคร หรือ ศูนย์ห่วงใยแรงงานสาคร ที่กำลังจะมีการจัดตั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่าง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กับ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ โดยทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้สนับสนุนงบประมาณจำนวน 10 ล้านบาท ให้กับจังหวัดสมุทรสาคร ผ่านทางสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อนำมาสร้างโรงพยาบาลสนามหรือศูนย์ห่วงใยแรงงานสาคร บนที่ดิน 49 ไร่ เชิงสะพานท่าจีน ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จาก นางเง็กเน้ย ศิริชัยเอกวัฒน์ และ ดร.วิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ เจ้าของที่ดินให้ดำเนินการโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ สำหรับโรงพยาบาลสนาม หรือ ศูนย์ห่วงใยแรงงานสาคร โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มีวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างเพื่อดูแลแรงงานที่ติดเชื้อโควิด -19 ให้กับสถานประกอบการที่ไม่มีพื้นที่รองรับแรงงานไทย แรงงานต่างด้าว และประชาชนทั่วไป เพื่อให้ผู้ที่ติดเชื้อได้มีสถานที่กักตัว และลดการแพร่ระบาดของเชื้อ ตลอดจนยังเพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐบาลอีกด้วย

ส่วนรูปแบบการก่อสร้างนั้นมีเป้าหมายที่ 1,200 เตียง แต่ในเบื้องต้นเพื่อให้ทันต่อการรองรับผู้ติดเชื้อปัจจุบัน ก็จะดำเนินการก่อสร้างระยะที่ 1 ก่อน เป็นอาคารพักผู้ป่วย 1 อาคาร รองรับจำนวน 200 เตียง และจุดพักเจ้าหน้าที่ตามรูปแบบของโรงพยาบาล ซึ่งจะใช้ที่ดินราวๆ 10 ไร่ โดยเน้นการก่อสร้างรูปแบบ Prefabication ไปประกอบหน้างานเพื่อให้เสร็จเร็วขึ้น คาดว่าในการจัดตั้งทั้งกระบวนใช้เวลาประมาณ 45 วัน แต่ถ้าหากมีความต้องการเพิ่ม ก็จะสร้างเพิ่มขึ้นอีก โดยการดำเนินงานในขณะนี้ ได้มีการส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการควบคุมโรค จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อออกคำสั่งในการจัดตั้งต่อไป

ด้าน ดร.วิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ ในนามเจ้าของที่ดิน 49 ไร่ บอกว่า ได้มีการพูดคุยกับทางคุณแม่ และทุกคนก็พร้อมใจกันที่จะให้สภาอุตสาหกรรม ได้เข้ามาใช้ประโยชน์จากที่ดินตรงนี้ เพื่อสร้างโรงพยาบาลสนาม จังหวัดสมุทรสาคร หรือศูนย์ห่วงใยแรงงานสาคร เนื่องจากขณะนี้ทุกคนต้องช่วยกัน ซึ่งเบื้องต้นได้ขอตั้งโรงพยาบาลสนามไว้มากกว่า 1 ปีก่อน แต่หากสถานการณ์ยืดยาวไปอีก อาจให้ขยับขยายไปตั้งบนที่ดินในแปลงที่ใกล้เคียงกับจุดนี้ เพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงานของทุกฝ่าย

Related Articles