รมว.สาธารณสุข เปิดศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 10 โรงพยาบาลสนามเพื่ออนาคต

รมว.สาธารณสุข เปิดศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 10 โรงพยาบาลสนามเพื่ออนาคต

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 10 รพ.สนามเพื่ออนาคต

เมื่อเวลา 10.30 น. ของวันที่ 08 มีนาคม 2564 ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้เกียรติเป็นประธานเปิดศูนย์ห่วงใยคนสาครแห่งที่ 10 หรือโรงพยาบาลสนามเพื่ออนาคต ของจังหวัดสมุทรสาคร  ณ บริเวณที่ดิน 49 ไร่ เชิงสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน ต.ท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยมีนายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายสุพันธุ์ มงคลสุธีประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นายอภิสิทธิ์ เตชะนิธิสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ผู้แทนอาม่าเง็กเน้ย ศิริชัยเอกวัฒน์ ผู้มอบที่ดินให้ใช้สร้างโรงพยาบาลสนามโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และผู้มีเกียรติจากหลายภาคส่วนเข้าร่วมในพิธีเปิด โดยในการนี้ ดร.สาธิตฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขหลังจากที่ทำพิธีเปิดงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เยี่ยมชมเตียงสนาม ซึ่งเป็นเตียงกระดาษผลิตภัณฑ์เพื่อโรงพยาบาลสนามจากสมาคมบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกไทย และเยี่ยมชมระบบบำบัดน้ำเสีย กับส่วนพื้นที่การให้บริการทางการแพทย์อีกด้วย

ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากความร่วมมือของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและเครือข่าย ที่ได้ร่วมกันจัดตั้งศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 10 หรือที่เรียกกันว่าโรงพยาบาลสนาม ซึ่งแม้ขณะนี้ถึงแม้ว่าสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 จะดูเบาบางลง แต่การเตรียมความพร้อมไว้ทั้งในปัจจุบันและอนาคตเป็นเรื่องที่จำเป็น ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าศูนย์ห่วงใยคนสาครของจังหวัดสมุทรสาครนั้น เป็นศูนย์ที่มีศักยภาพเป็นอย่างมาก หากในอนาคตมีการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ทางศูนย์ห่วงใยคนสาครแห่งที่ 10 นี้ ก็จะสามารถรองรับและให้การรักษาได้อย่างทันท่วงที หรืออาจปรับเปลี่ยนเป็นสถานที่ควอรันทีนก็ได้ตามสภาพความเหมาะสมให้เข้ากับบริบทของสถานการณ์นั้นๆ

ดร.สาธิต กล่าวอีกว่า สำหรับในส่วนของวัคซีนที่ส่งเข้ามาในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดและต้องมีการควบคุมโรคอย่างรวดเร็วนั้น หลังจากที่ล๊อตแรกส่งเข้ามาประมาณ 70,000 โด๊ส ก็จะมีการฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงตามการแบ่งกลุ่ม  และอีกไม่นานล๊อตที่สองก็จะตามมา ทางจังหวัดสมุทรสาครก็จะยังคงเป็นจังหวัดที่ได้รับวัคซีนเป็นจำนวนมากที่สุดเช่นเดิมตามที่คณะกรรมการบริหารจัดการวัคซีนกำหนดไว้ ซึ่งการฉีดวัคซีนในวันนี้ทางจังหวัดสมุทรสาครมีการฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์และกลุ่มด่านหน้าไปแล้ว จึงนับเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ส่วนกลุ่มประชาชนทั่วไปนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดลงทะเบียน เพราะยังอยู่ระหว่างการหารือว่าจะให้ลงทะเบียนแบบไหน เพื่อให้เข้าถึงวัคซีนได้มากที่สุด ส่วนวัคซีนเอกชนตอนนี้ก็เปิดโอกาสให้สามารถจัดซื้อได้แล้ว แต่ต้องซื้อกับบริษัทฯ ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น

ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับจังหวัดสมุทรสาคร จะได้เล่นน้ำสงกรานต์หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ศบค.ชุดเล็กและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาครที่จะพิจารณาสถานการณ์ปัจจุบันแล้วส่งเรื่องไปให้ ศบค.เป็นผู้พิจารณา เนื่องจากทุกวันนี้สมุทรสาครยังคงพบผู้ติดเชื้อรายวัน ดังนั้นหากสถานการณ์โดยรวมเป็นไปแบบนี้ ชาวสมุทรสาครอาจจะได้เล่นน้ำสงกรานต์ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการโรคติดต่อและ ศบค.ชุดเล็กด้วย

ด้านนายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ตามที่จังหวัดสมุทรสาครได้เกิดการระบาดของโรคโควิด 19 อย่างรุนแรง โรงพยาบาลสนามนับมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการและให้การรักษาในเบื้องต้นสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด 19 ซึ่งที่ผ่านมาจังหวัดสมุทรสาครได้ดำเนินการสร้างศูนย์ห่วงใยคนสาครไปแล้วจำนวน 9 แห่ง ต่อมาด้วยสถานการณ์ที่เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร จึงได้พิจารณาให้ปิดศูนย์ห่วงใยคนสาคร 2 แห่ง คือ ศูนย์ห่วงใยคนสาครแห่งที่ 1 สนามกีฬากลางจังหวัดสมุทรสาคร กับ ศูนย์ห่วงใยคนสาครแห่งที่ 3 วัฒนาแฟคตอรี่ คงเหลือที่ใช้งานได้จริงรวม 7 แห่ง เมื่อทางจังหวัดสมุทรสาครได้ศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 10 ที่จัดสร้างโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มีขนาด 200 เตียง บนพื้นที่จำนวน 49 ไร่ ติดถนนพระราม 2 เชิงสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน รวมมูลค่ากว่า 11 ล้านบาทแห่งนี้มาเพิ่มอีก 1 แห่ง ก็จะทำให้การควบคุมโรค หรือการวางแผนเพื่อการควบคุมโรคในอนาคตเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ เป็นโรงพยาบาลสนามที่สร้างขึ้นเพื่อให้แรงงานไทย แรงงานต่างด้าว และประชาชนในจังหวัดสมุทรสาครได้มีสถานที่กักตัวและรับการรักษา จะช่วยลดค่าใช้จ่ายภาครัฐและลดจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี

Related Articles