By ผู้สูงอายุสมุทรสาคร มั่นใจฉีดวัคซีนแอสตร้าเข็ม 2 ฉีดครบจบแน่
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2564 เวลา 09.00 น. นายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร ได้ลงเยี่ยมศูนย์ให้บริการวัคซีนโควิด – 19 โรงพยาบาลสมุทรสาคร ณ บริเวณชั้น 1 ศูนย์การค้าแลนด์มาร์คมหาชัย ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร ซึ่งกลุ่มผู้ที่มาเข้ารับบริการฉีดวัคซีนในวันนี้ส่วนใหญ่มากกว่าร้อยละ 80 เป็นกลุ่มผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยได้รับวัคซีนเป็นชนิด แอสตราเซเนกาเข็มที่ 2 หลังจากที่ฉีดเข็มแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2564 วันแรกๆ ของการเปิดให้บริการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุ โดยในส่วนของผู้ที่มาเข้ารับฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มที่ 2 นี้ ก็มีทั้งคุณตาเพิ่ม พลายแก้ว อายุ 90 ปีเศษ,นายศรีศักดิ์ วัฒนพรมงคล สมาชิกวุฒิสภา นายณัฐวุฒิ เอกจิโรภาส นายกสมาคมผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรสาคร นายแพทย์โมลี วนิชสุวรรณ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร พระภิกษุสงฆ์ และผู้สูงอายุในจังหวัดสมุทรสาคร ที่พร้อมเข้ารับการฉีดวัคซีนตามนัดหมาย เพื่อร่วมกันสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับครอบครัว รวมถึงบุคคลรอบตัว
นายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร ได้ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมเกี่ยวกับการบริหารจัดการวัคซีนในจังหวัดสมุทรสาครว่า สำหรับจังหวัดสมุทรสาครในช่วงแรกๆ นั้น อาจจะพบปัญหาในเรื่องของความกล้าที่จะเข้ามาฉีดวัคซีน แต่ในที่สุดจังหวัดสมุทรสาครก็ก้าวผ่านจุดนั้นมาได้แล้ว เพราะประชาชนทุกกลุ่มให้ความร่วมมือที่จะเข้ามาฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมาก เพราะฉะนั้นตอนนี้เรื่องที่เราต้องมุ่งเน้นคือ ทำอย่างไรให้ฉีดได้ทันกับความต้องการและรวดเร็วที่สุด ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ทีมฉีดวัคซีนของทั้ง 3 อำเภอ ก็มีความพร้อมเป็นอย่างมาก โดยรวมสามารถให้บริการฉีดวัคซีนได้วันละกว่า 10,000 คน ดังนั้นถ้าเราบริหารจัดการได้แบบนี้อย่างต่อเนื่องเชื่อได้ว่าไม่เกิน 2 เดือน จังหวัดสมุทรสาครจะสามารถฉีดวัคซีนให้กับทุกคนได้ครบถ้วนตามจำนวนที่ตั้งเป้าหมายไว้ และมีการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้กว่า 70 เปอร์เซ็นต์อย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังมีปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อเรื่องของการบริหารจัดการฉีดวัคซีนด้วย คือ การจัดสรรวัคซีนมาให้จังหวัดสมุทรสาครในแต่ละช่วงเวลา กับ ประเด็นที่สำคัญอีกหนึ่งเรื่องคือ หลังจากที่ฉีดเข็มแรกไปแล้ว มีหลายคนยังไม่ได้มาฉีดเข็มสองตามที่ได้รับนัดไป และเข้าใจว่าหากเลยวันนัดไปแล้วก็จะไม่สามารถมาฉีดได้ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีผู้ที่ไม่ได้มาฉีดเข็มสองประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจึงขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนเข้าใจว่า ถ้าเลยวันนัดไปแล้วแต่ไม่เกินระยะเวลา 1 – 2 สัปดาห์ ก็สามารถมาฉีดเข็มสองได้ปกติ
นายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร กล่าวอีกว่า สำหรับในส่วนของวัคซีนแอสตราเซเนกาที่ฉีดให้กับกลุ่มผู้สูงอายุนั้น ที่ผ่านมาในรอบแรกเราได้วัคซีนชนิดนี้มาประมาณ 30,000 โด๊ส ฉีดให้กับกลุ่มผู้สูงอายุได้ราวๆ 15,000 คน เพราะต้องมีการบริหารจัดการเก็บเข็มสองไว้ด้วย โดยในจำนวนนี้สามารถฉีดได้ครบภายในไม่กี่วัน แสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้สูงอายุของจังหวัดสมุทรสาครมั่นใจในวัคซีน ส่วนผลที่ตามคือ ไม่มีอาการข้างเคียงในกลุ่มผู้สูงอายุที่แม้จะมีอายุมากที่สุด 94 – 96 ปี หรือแม้แต่ผู้ป่วยติดเตียงก็ตาม
ขณะที่คุณตาเพิ่ม พลายแก้ว อายุ 90 ปีเศษ ซึ่งเป็นผู้ที่มีอายุสูงสุดเป็นรายแรกของจังหวัดสมุทรสาคร ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มแรก ในวันแรกที่เปิดให้บริการ นั้นก็บอกว่า วันนี้มาฉีดวัคซีนเข็มที่สองแล้วก็เรียบร้อยดี ตอนฉีดเข็มแรกก็สบายดี ไม่มีอาการข้างเคียงอะไร ปกติดีทุกอย่าง มั่นใจในความปลอดภัยของวัคซีน และอยากให้ทุกคนมาฉีดวัคซีนไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น จะได้ไม่แพร่เชื้อ
ส่วนนายศรีศักดิ์ วัฒนพรมงคล สมาชิกวุฒิสภา ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มสอง เช่นเดียวกันนั้นก็บอกว่า วันนี้จังหวัดสมุทรสาครจะผ่านพ้นวิกฤติไปได้ก็ต้องอาศัยวัคซีน ซึ่งตนเองขอยืนยันว่าวัคซีนที่ฉีดนั้นมีความปลอดภัยแน่นอน โดยตนเองนับตั้งแต่ฉีดเข็มแรกมาจนถึงเข็มที่สองแล้ว ก็ไม่มีอาการข้างเคียงใดๆ ซึ่งสมุทรสาครจะเดินหน้าต่อไปได้ ก็ต้องมีภูมิคุ้มกันหมู่อย่างน้อยร้อยละ 70 ดังนั้นวันนี้ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะต้องมาเข้ารับการฉีดวัคซีน จึงอยากเชิญชวนและให้ความมั่นใจว่าวัคซีนที่นำมาฉีดให้กับพี่น้องชาวจังหวัดสมุทรสาครนี้ ไม่ว่าจะเป็นชนิดไหนก็มีความปลอดภัยแน่นอน
และนอกจากนี้ยังมีเสียงจากประชาชนที่มาเข้ารับบริการฉีดวัคซีนว่า อย่ากลัวกับการฉีดวัคซีนเพราะไม่ว่าเราจะฉีดวัคซีนหรือไม่ฉีดความเสี่ยงก็พอๆ กัน ถ้าเราไม่ฉีดแล้วติดโควิดขึ้นมา คนรอบข้างของเราก็จะได้รับอันตรายต่อชีวิตติดเชื้อไปด้วย ซึ่งโดยส่วนตัวฉีดวัคซีนแล้วไม่มีอาการใดๆ ก่อนฉีดก็ทำใจสบายๆ ไม่ต้องคิดอะไรทำตัวให้เหมือนกับการไปฉีดยาที่โรงพยาบาล การที่เราฉีดวัคซีนกับไม่ฉีดวัคซีน ความเสี่ยงเหมือนๆ กัน ดังนั้นก็เลือกฉีดวัคซีนดีกว่า และถ้ากลับไปบ้านมีอาการก็ให้รีบมาโรงพยาบาลหาหมอทันที ซึ่งการฉีดวัคซีนนั้นไม่ใช่เพียงแค่สร้างความปลอดภัยให้กับตัวเอง แต่การฉีดวัคซีนยังเป็นการสร้างความปลอดภัยให้กับคนรอบข้างอีกด้วย วันนี้หากใครยังกลัว ก็ขอให้มองมายังคนที่เข้ารับบริการฉีดวัคซีนแล้วปลอดภัยดี ก็อย่ารีรอที่จะตัดสินใจ มาเข้ารับบริการฉีดวัคซีนกันดีกว่า
