สภาอุตสาหกรรมภาคกลาง จัดประชุมหารือ เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการค้านำเข้า – ส่งออก และพื้นที่พลังงานสีขาว

สภาอุตสาหกรรมภาคกลาง จัดประชุมหารือ เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการค้านำเข้า – ส่งออก และพื้นที่พลังงานสีขาว
Spread the love

สภาอุตสาหกรรมภาคกลาง จัดประชุมหารือ เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการค้านำเข้า – ส่งออก และพื้นที่พลังงานสีขาว

วันที่ 12 กรกฎาคม 2565 เวลา 14:00 – 16:00 น. นายอภิสิทธิ์ เตชะนิธิสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย คณะกรรมการ ร่วมต้อนรับ คณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมภาคกลาง มาพร้อมกันหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เพื่อสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ซึ่งเป็นศาลที่ศักดิ์สิทธิ์ หากใครได้เดินทางมาไหว้จะพบแต่ความโชคดี ทำมาค้าขายดีตลอดทั้งปี และร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องบลูด้า ร้านท่าเรือภัตตาคาร “ซึ่งเป็นร้านอาหารซีฟู๊ดที่ขึ้นชื่อในสมุทรสาคร และร่วมการประชุมคณะกรรมการภาคกลาง ครั้งที่ 1 โดยมีนายทวี ปิยะพัฒนา รองประธานอาวุโสสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ให้เกียรติเปิดการประชุม ร่วมด้วย นายสุรชัย โสตถีวรกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคกลาง นายอภิชิต ประสพรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายสมภพ ธีระสานต์ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมภาคกลาง นายอภิสิทธิ์ เตชะนิธิสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมภาคกลาง ที่เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน ที่ ท่าเรือภัตตาคาร อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร

นายทวี ปิยะพัฒนา รองประธานอาวุโสสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้กล่าวต่อที่ประชุมว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมในยุคปัจจุบันต้องอาศัยเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วย เพื่อเสริมศักยภาพด้านความเข้มแข็งของการพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคต ดังนั้นขอให้ผู้ประกอบการทุกรายอย่าหยุดพัฒนาต้องคิดค้นหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมให้มีรูปแบบที่แปลกใหม่รองรับความเจริญเติบโตและการเปลี่ยนแปลงในอนาคต อีกสิ่งที่สำคัญคือ การเตรียมรับมือกับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้ ซึ่งผู้ประกอบการทุกรายจะต้องรู้จักการปรับตัวและใช้แรงงานให้มีความเหมาะสมกับหน้าที่ เพราะนอกจากจะทำให้เกิดการพัฒนางาน พัฒนาคน พัฒนาผลิตภัณฑ์แล้ว ยังช่วยเรื่องของการจัดระบบงบประมาณหรือค่าใช้จ่ายของสถานประกอบการอีกด้วย

ขณะที่นายอภิชิต ประสพรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ในส่วนของสมาชิกสภาอุตสาหกรรมนั้น อยากให้ทุกคนมองหาแนวทางการส่งเสริมศักยภาพในผลิตภัณฑ์ของตนหรือของกลุ่ม แล้วมีการเขียนโครงการเสนอต่อสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อผลักดันงบประมาณมาใช้ในการจัดแสดงศักยภาพของผลิตภัณฑ์เหล่านั้น ให้ปรากฏแก่สายตาของคนภายนอกเพื่อร่วมกันเปิดตลาดให้กว้างมากยิ่งขึ้นและแสดงให้เกิดการยอมรับต่อศักยภาพของสินค้าที่เรามีอยู่

ด้านนายนายสุรชัย โสตถีวรกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคกลาง กล่าวด้วยว่า สำหรับการประชุมคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมภาคกลาง ครั้งที่ 1/2565 ที่จัดขึ้นนี้ ก็เพื่อต้องการแจ้งให้ทางคณะกรรมการและสมาชิกฯ ได้รับทราบถึงนโยบายการดำเนินงานของสภาอุตสาหกรรมภาคกลาง ,นโยบายการดำเนินงานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ,แผนพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนระดับภูมิภาค (ภาคกลาง) ประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2566 – 2570 ,การดำเนินการบัญชีสภาอุตสาหกรรมภาคกลาง และแจ้งบัญชีรายรับ – รายจ่าย ค้างชำระ,ปัญหาความเดือดร้อนของสมาชิก,ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาจากภาครัฐเรื่องตู้คอนเทนเนอร์ และความคืบหน้าการดําเนินงาน 4 กลุ่มจังหวัด ได้แก่ กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน (ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง)/กลุ่มจังหวัดภาคกลางปริมณฑล (นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ)/ กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 (กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี) / กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 (ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร) ตลอดจนการรายงานสถานะผังเมือง และความร่วมมือระหว่าง GS1 กับ สภาอุตสาหกรรมจังหวัด ทั้งนี้นอกจากจะเพื่อให้การทำงานของสภาอุตสาหกรรมภาคกลางเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ของการทำงานตามวิสัยทัศน์ที่ตั้งไว้คือ “ศูนย์กลางด้านการค้านำเข้า – ส่งออก และพื้นที่พลังงานสีขาว” อีกด้วย

Related Articles