สมาคมการประมงสมุทรสาคร จัดพิธีสืบชะตาทะเลอ่าวไทยตอนบนที่สมุทรสาคร ครั้งที่ 12

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 สมาคมการประมงสมุทรสาคร ได้จัดพิธีสืบชะตาทะเลอ่าวไทยตอนบนที่สมุทรสาคร ครั้งที่ 12 ณ อาคารเอนกประสงค์ (หลังคาโค้ง) ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร โดยมีนายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในพิธี ร่วมด้วย นายมงคล มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร หัวหน้าส่วนราชการ ผู้มีเกียรติ สมาชิกและพี่น้องชาวประมง เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก โดยในโอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้มอบเกียรติบัตรให้แก่เรือประมงที่ร่วมกิจกรรมเก็บขยะเข้าฝั่ง และปล่อยพันธุ์ปูม้านอกกระดอง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ชาวประมงได้ร่วมมือกันปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อคืนทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ให้แก่ท้องทะเลไทย อีกทั้งยังให้เกียรติเป็นผู้รับเงินบริจาคจากทางผู้ให้การสนับสนุนสมาคมการประมงสมุทรสาคร การทำบุญถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ การปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำพร้อมกับนำเรือเก่าไปจมเป็นปะการังเทียม เพิ่มแหล่งที่อยู่อาศัยสัตว์น้ำ และไหว้ฮ้อเฮียตี๋

นายมงคล มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร กล่าวว่า สำหรับพิธี “สืบชะตาทะเลอ่าวไทยตอนบนที่สมุทรสาคร ครั้งที่ 12 นี้ เนื่องด้วยอ่าวสมุทรสาคร หรืออ่าวมหาชัย มีพื้นที่ประมาณหกแสนสองหมื่นไร่ ที่สร้างวิถีอาชีพประมงในอดีตขยายผลให้เกิดความมั่นคงมาถึงปัจจุบัน ส่วนในด้านความเชื่ออันเป็นที่มาของการไหว้ฮ้อ เฮียตี๋ คือ พี่น้องร่วมสาบานของคนจีนลงเรือลำเดียวกันแสวงที่ทำกินอยู่อาศัย คนใดคนหนึ่งเสียชีวิตในเรือไม่มีที่ฝังหรือเผาต้องทิ้งศพลงทะเลกลายเป็นผีไม่มีญาติที่น่าสงสาร พี่น้องที่มีชีวิตอยู่จึงรำลึกถึงด้วยการนำเครื่องเซ่นไหว้สังเวยให้วิญญาณอยู่ในภพภูมิที่มีความสุข และเชื่อกันว่าวิญญาณเหล่านั้นคอยเกื้อหนุนให้เกิดมรรคผลในการประกอบอาชีพ จึงได้ทำพิธีเซ่นไหว้ในทุกครัวเรือนของชาวประมงมาตั้งแต่บรรพบุรุษ และด้วยเหตุดังกล่าวนี้เอง ทำให้ทางสมาคมการประมงสมุทรสาคร และสมาชิกชาวประมง ร่วมกันจัดทำโครงการ “สืบชะตา ทะเลอ่าวไทยตอนบนที่สมุทรสาคร” ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องทุกปี

ด้านายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า พิธีสืบชะตาทะเลอ่าวไทยตอนบนที่สมุทรสาครฯ ที่จัดขึ้นนี้ นับเป็นกิจกรรที่ร่วมกันรักษาสืบสานวัฒนธรรมการปฏิบัติจากบรรพบุรุษสู่รุ่นลูกหลาน แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการดำรงชีวิตที่มีการพึ่งพาอาศัย แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการแบ่งปัน การตอบแทนบุญคุณ การเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน อันเป็นวัฒนธรรมไทยเดิมๆ ที่กำลังจะเลือนหายไปในสังคมปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นกิจกรรมที่ทำแล้วถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ที่ต้องถือปฏิบัติสืบไป การรักษาฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สิ่งนี้ถือเป็นสมบัติล้ำค่าที่ธรรมชาติให้มา ถ้ารู้จักใช้ชีวิตมีความสุข สังคมเป็นสุข แต่สถานการณ์ปัจจุบัน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมถูกทำลายมากกว่าการฟื้นฟู ดังนั้นจึงขอชื่นชมกับโครงการนี้ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งทางตรง และทางอ้อมต่อส่วนรวมอย่างยั่งยืน รวมทั้งเป็นการสร้างบุญกุศลให้เกิดความสุขทางใจได้อีกด้วย