By ทน.สมุทรสาคร จัดงานเดิน กิน ชิม เที่ยว ส่งเสริมรายได้สู่ท้องถิ่น ควบคู่สืบสานประเพณีลอยกระทง
เมื่อเวลา 18.00 น.ของวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 นายชุมพล จันทร์จรัสวัฒนา นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร เป็นประธานเปิดกิจกรรม “เดิน กิน ชิม เที่ยว” ตามโครงการเทศกาลนครแห่งอาหารทะเล เทศบาลนครสมุทรสาคร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยมีนายชิงชัย บุญประคอง ปลัดเทศบาลเทศบาลนครสมุทรสาคร นายกำจร มงคลตรีลักษณ์ ประธานบริหารศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ และพี่น้องประชาชนที่ให้ความสนใจเข้าร่วมชมการแสดงบนเวที พร้อมกับซื้ออาหาร ขนม และสินค้าต่างๆ ภายในงานที่มีร้านค้ามาเปิดจำหน่ายกันเป็นจำนวนมาก ที่บริเวณริมเขื่อนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ตำบลมหาชัย อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรสาคร
นายชุมพล จันทร์จรัสวัฒนา นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร กล่าวว่า กิจกรรมที่จัดขึ้นนี้ เกิดจากการที่เทศบาลนครสมุทรสาคร ได้มีแนวทางการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ฯ ด้านเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ การท่องเที่ยว คุณภาพชีวิตและความมั่นคงของมนุษย์ ส่งเสริมอาชีพ โดยมีความพร้อมในแหล่งวัตถุดิบ การแปรรูปตลาดทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศ ยังสามารถสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนในท้องถิ่นโดยใช้อาหารทะเล (Seafood) เป็นตัวดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ดังนั้นจึงได้จัดทำโครงการเพิ่มศักยภาพการจำหน่ายสินค้าและบริการ กิจกรรมหลักบูรณาการภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก และกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบาย Soft Power ของรัฐบาลไทย
สำหรับการจัดโครงการในครั้งนี้ มีระยะเวลา 4 วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 24 – 27 พฤศจิกายน พ.ศ.2566 ขณะที่ในส่วนของวันที่ 27 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันลอยกระทงนั้น ทางเทศบาลนครสมุทรสาคร ก็ได้จัดพื้นที่ให้พี่น้องประชาชนได้มาร่วมกันสืบสานประเพณีลอยกระทงประจำปี 2566 ที่บริเวณริมเขื่อนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร โดยมีจุดสำหรับปล่อยกระทงให้ลอยลงสู่แม่น้ำท่าจีน อีกทั้งยังได้ทำทุ่นลอยน้ำกั้นไว้เพื่อป้องกันไม่ให้กระทงลอยออกไปจนกลายเป็นขยะในแม่น้ำอีกด้วย ส่วนกิจกรรมภายในงานก็มีทั้งร้านค้าชุมชน ร้านค้าจากธงฟ้า และซุ้มการละเล่นธีมงานวัด รวมๆ แล้วมากกว่าร้อยร้านค้า การแสดงของนักเรียน การแสดงของนักร้องอาชีพ และยังได้จัดโต๊ะเก้าอี้สำหรับให้ผู้มาร่วมงานได้นั่งรับประทานอาหารพร้อมกับชมการแสดงบนเวทีแบบชิวๆ ท่ามกลางบรรยากาศดีๆ ยามเย็นที่สดชื่น ริมแม่น้ำท่าจีนอีกด้วย
