สมุทรสาครจัดโครงการรักษ์ทะเล (เก็บขยะทะเล) และปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ

สมุทรสาครจัดโครงการรักษ์ทะเล (เก็บขยะทะเล) และปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563) เวลา 10.00 น. ดร.ปฤถา พรหมเลิศ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ได้นำคณะผู้แทนจากสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เข้าร่วมกิจกรรมโครงการรักษ์ทะเล (เก็บขยะทะเล) และปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ จ.สมุทรสาคร ที่จัดขึ้น ณ บริเวณท่าเทียบเรือหน้าวัดศรีสุทธาราม (กำพร้า) ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยมีนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานเปิดโครงการ ร่วมด้วย นางชุติพร วิจิตร์แสงศรี ประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสมุทรสาคร นายอำนาจ หนูทอง ประมงจังหวัดสมุทรสาคร หัวหน้าส่วนราชการ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนพี่น้องประชาชนตัวแทนจากทุกภาคส่วน และพี่น้องชาวประมงที่มาเข้าร่วมกิจกรรมที่จัดขึ้น พร้อมกับนำเรือประมงมาร่วมเก็บขยะทั้งในทะเล , ริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน, และในป่าชายเลน เพื่อให้ทะเลกลับมามีความสะอาดอีกครั้ง โดยในการนี้ก็ได้มีการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเป็นพันธุ์ปลากะพง 200,000 ตัว และพันธุ์ปูม้าอีก 10,000 ตัว ก่อนที่ทุกคนจะล่องเรือช่วยกันเก็บขยะ และปลูกป่าชายเลน

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า เนื่องจากการดำรงชีวิตในอดีตอ่าวมหาชัยเป็นแหล่งรวมสัตว์น้ำที่สมบูรณ์สมกับคำขวัญของจังหวัดสมุทรสาครว่า “เมืองประมง” แต่ในปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนแปลงของทุกสภาวะมีผลกระทบทำให้ปริมาณสัตว์น้ำลดลง มลภาวะสิ่งแวดล้อมเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งชาวประมงเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง จึงรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักและมีจิตสำนึกถึงคุณค่าของทรัพยากรสัตว์น้ำ ตลอดจนการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเล ในการนี้ทางสำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสาคร จึงร่วมกับ เทศบาลตำบลบางหญ้าแพรก ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งที่ 2 จังหวัดสมุทรสาคร และกลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็กจังหวัดสมุทรสาคร รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินกิจกรรม “โครงการรักษ์ทะเล (เก็บขยะทะเล) และปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เป็นปลากะพงจำนวน 200,000 ตัว กับ ปูม้า 10,000 ตัว ขึ้นโดยได้รับการสนับสนุนจากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเขต 2 สมุทรสาคร ทั้งนี้ก็เพื่อการอนุรักษ์สัตว์น้ำ และการฟื้นฟูอ่าวไทยให้มีศักยภาพขึ้นในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม ตลอดจนยังก่อให้เกิดความตระหนักถึงบุญคุณของท้องทะเลที่สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อมุ่งหวังให้เกิดการบริหารจัดการ และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติที่มีต่อการดำรงชีวิตของชาวประมงอย่างยั่งยืนต่อไป

Related Articles