“ผู้ว่าปู” วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี เตรียมยื่นลาออก หลังคุณหมอแนะควรใช้ชีวิตก่อนเกษียณที่สงบกว่านี้ “ลาออกเถอะ” บ้านเมืองย่อมมีคนมาทำงานได้ อย่าไปห่วงจนเกินตัว โดยโพสต์เฟซบุ๊ค Sakravee Srisangdharma

“ผู้ว่าปู” วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี เตรียมยื่นลาออก หลังคุณหมอแนะควรใช้ชีวิตก่อนเกษียณที่สงบกว่านี้ “ลาออกเถอะ” บ้านเมืองย่อมมีคนมาทำงานได้ อย่าไปห่วงจนเกินตัว โดยโพสต์เฟซบุ๊ค Sakravee Srisangdharma

“ผู้ว่าปู” วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี เตรียมยื่นลาออก หลังคุณหมอแนะควรใช้ชีวิตก่อนเกษียณที่สงบกว่านี้ ลาออกเถอะ บ้านเมืองย่อมมีคนมาทำงานได้ อย่าไปห่วงจนเกินตัว

เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 15 สิงหาคม 2564 “ผู้ว่าปู” วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี โพสต์เฟซบุ๊ค Sakravee Srisangdharma มีใจความว่า ยามดีใช้ ยามไข้รักษา มีคนถามผมมาเยอะว่า ไม่ย้ายกับเขาเหรอไม่เห็นมีชื่อในคำสั่ง หรือว่าผมเกษียณปีนี้ อยากย้ายเช่นกันครับเหตุผลของผมคือ สุขภาพผมไม่แข็งแรง ออกพื้นที่ได้ไม่มาก ไปมาไม่สะดวก หลายคนเป็นห่วงออกจากศิริราชแล้ว ร่างกายไม่เหมือนเดิมเลย โควิดทิ้งร่องรอยไว้เยอะมาก เหนื่อย ไอ จาม มีน้ำมูก หอบง่าย ล่าสุดมีอาการเกร็งด้านขวา ค่อนข้างมากคุณหมอบอกว่าผมเครียดหนัก พักผ่อนน้อย ต้องถนอมชีวิตมากกว่านี้
ขณะที่งานในสมุทรสาครไม่เครียดคงไม่ได้ กระทรวงบอกว่าผมทำงานมากเกินไป จะย้ายให้ไปอยู่จังหวัดอื่นที่งานโควิดเบาขึ้น ผมเป็นห่วงชาวบ้าน ก่อนถึงฤดูโยกย้าย
ขอผมเป็นพนักพิงให้ชาวบ้านอุ่นใจก่อนว่า เรายังไม่หนีไปไหน พร้อมเผชิญเรื่องร้ายๆไปด้วยกัน

ผมเกษียณปีหน้าครับ บอกคนใหญ่ในกระทรวง ถึงเหตุผลการย้าย มาจากสุขภาพร่างกายล้วนๆคำตอบที่ได้ตอนคำสั่งล่าสุด คือ ถึงผมอยากไปสุพรรณบุรี แต่นักการเมืองเขาไม่ยอมรับ (ซึ่งผมไม่รู้ว่าหมายถึงใคร) ผมไปไม่ได้แน่ ส่วนอ่างทอง เป็นจังหวัดเล็กเกินไปย้ายจากสมุทรสาคร ไปจังหวัดเล็กกว่าคงไม่เหมาะอือม์…อยู่ศรีสะเกษ 22 อำเภอ สมุทรสาคร 3 อำเภอผมเข้าใจอะไรผิดเรื่องเล็กใหญ่แน่เลย ไปจังหวัดอื่นก็ลำบาก อยู่สมุทรสาครต่อก็คงไม่ดี คนอยู่ที่นี่ควรจะแข็งแรงกว่าผมทำงานได้คล่องแคล่วกว่าผมไม่มีปัญหาด้านสุขภาพเหมือนผม

ผมคิดสะระตะในใจว่าผู้ว่า สุพรรณฯ เป็นกัลยาณมิตรที่ดีของผม ส่วนผู้ว่าอ่างทอง เป็นอดีตเพื่อนร่วมงานที่ดีของผมเช่นกัน ผมคงไม่มีเหตุผลใดจะไปไล่ที่เขา ผมเคยฝันว่า จะสามารถอยู่รับราชการได้จนถึงเกษียณอายุเพราะคือจุดหมายปลายทาง ที่ข้าราชการทุกคนปรารถนาแต่วันนี้ ต้องยอมรับว่าเป็นได้แค่ในฝัน สาเหตุหลักมาจากการทุ่มเทให้กับงานมากไปนึกถึงคำของผู้ใหญ่ที่บอกว่า จะหาจังหวัดอื่นที่งานโควิดเบาขึ้น แต่สุดท้ายก็ไม่ได้หาให้คำสั่งที่เห็นจึงไม่มีชื่อผมด้วย หลงคิดมานานว่า การจัดคนลงตำแหน่ง เป็นเรื่องของกระทรวงเป็นหลัก หรือว่าผมไม่มีสีของสิงห์ใดๆ นอกจากสีกากีของเครื่องแบบ สีที่ผมพยายามใช้ เดินตามรอยพระบาทในหลวง ร.9 มาตลอดชีวิตการทำงาน

นึกถึงคำของคุณหมอที่บอกหลังเห็นคำสั่งว่า ผมควรใช้ชีวิตก่อนเกษียณที่สงบกว่านี้ ลาออกเถอะ บ้านเมืองย่อมมีคนมาทำงานได้ อย่าไปห่วงจนเกินตัว นึกถึงคำของลูกสาวที่ปลอบพ่อว่า พ่อต้องดูสุขภาพและความรู้สึกพ่อเป็นหลัก พ่ออยู่ในราชการอีกแค่ปีเดียว แต่อยู่ในชีวิตหลังเกษียณอีกหลายปี พ่อทำงานหนักมาตลอดชีวิต ปีสุดท้ายของพ่อ น่าจะเลือกให้เหมาะกับสุขภาพพ่อเป็นสำคัญ

มาถึงตรงนี้คนที่สนิทกัน คงรู้แล้วว่าผมเลือกจะทำยังไง จู่ ๆ ผมก็นึกถึงคำโบราณที่ว่า “ยามดีใช้ ยามไข้ (ไม่) รักษา”

Related Articles