มหาดไทยเห็นคุณค่า “ผู้ว่าปู” ชง ครม. ไม่ให้ออกราชการ ย้ายเป็นพ่อเมืองอ่างทอง ช่วงเวลาที่เหลือจะทำงานให้เต็มที่ เดินหน้าสู้โควิด สมุทรสาคร “ต้องชนะ”

มหาดไทยเห็นคุณค่า “ผู้ว่าปู” ชง ครม. ไม่ให้ออกราชการ ย้ายเป็นพ่อเมืองอ่างทอง ช่วงเวลาที่เหลือจะทำงานให้เต็มที่ เดินหน้าสู้โควิด สมุทรสาคร “ต้องชนะ”

มหาดไทยเห็นคุณค่า “ผู้ว่าปู” ชง ครม. ไม่ให้ออกราชการ โยกย้ายเป็นพ่อเมืองอ่างทอง ทำงานให้บ้านเกิด ช่วงเวลาที่เหลือจะทำงานให้เต็มที่ เชื่อมั่นคนสมุทรสาครเดินหน้าสู้โควิด สมุทรสาคร “ต้องชนะ”

หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอให้ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง แล้วให้นายณรงค์ รักร้อย พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี มาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ขณะที่ตามรายงานข่าวก่อนหน้านี้ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการ หลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพ แต่ทางกระทรวงมหาดไทย ได้ระงับหนังสือลาออกฉบับดังกล่าวไว้ก่อนแล้ว

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 24 สิงหาคม 2564 นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดใจว่า ในส่วนของตนเองนั้นยังไม่อยากพูดถึงเรื่องของการโยกย้ายในครั้งนี้เพราะยังไม่เห็นคำสั่งใดๆ เลย โดยวันนี้ก็ยังคงอยู่แต่ในห้องทำงานเท่านั้น แต่ทั้งนี้ตามที่มีการนำเสนอข่าวออกมาก็ต้องขอขอบคุณทางผู้บังคับบัญชาที่เห็นความสำคัญจากการที่ตนเองได้ทุ่มเทการทำงานมาอย่างต่อเนื่อง และยังต้องขอยืนยันว่าไม่ว่าจะอย่างไรคนสมุทรสาครจะไม่มีทางยอมแพ้กับอุปสรรคที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ฉะนั้นในส่วนของตนเองนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพล้วนๆ ส่วนเรื่องที่ก่อนหน้านี้ตนเองเคยขอย้ายไปบริหารงานที่จังหวัดอ่างทอง ก็อยากจะบอกว่าในส่วนเรื่องของตนเองนั้น ตอนนี้ได้มีการปรับความเข้าใจตรงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยบางคนอาจจะมองว่าการย้ายไปอยู่ที่จังหวัดอ่างทองซึ่งเป็นจังหวัดที่เล็กกว่าสมุทรสาครนั้นเพราะปัญหาสถานการณ์โควิด แต่จริงๆแล้วอยากจะบอกว่า ตนเองไม่เคยยอมแพ้กับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ที่ต้องการขอย้ายก็มาจากปัญหาทางด้านของสุขภาพร่างกายเท่านั้นเอง เพราะตนเองต้องรักษาตัวด้วยการทำกายภาพบำบัดกับแพทย์ของโรงพยาบาลอ่างทองหลังจากที่ออกจากศิริราช ดังนั้นจึงต้องการที่จะกลับไปรักษาตัวอย่างต่อเนื่องที่จังหวัดอ่างทองซึ่งใกล้กับบ้านพักของตนเอง

นายวีระศักดิ์ฯ บอกอีกว่า ตอนนี้ตนเองยังคงมีหน้าที่สำคัญคือการปฏิบัติงานในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ต้องทำงานให้เต็มที่และดีที่สุดจนถึงวันสุดท้ายของการทำงานที่นี่ โดยตนมีเป้าหมายหลักคือ การทำให้คนสมุทรสาครติดเชื้อไม่เกินวันละ 1,000 คนให้ได้ ตามแผนพลิกฟื้นสมุทรสาคร ภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ และถ้าเป็นไปได้หลังจากที่สหรัฐอเมริการับรองวัคซีนไฟเซอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ตนเองยังคิดว่าหากในอนาคตสามารถให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์มาฉีดให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสาครได้ ก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก

นายวีระศักดิ์ฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า แม้วันนี้ ครม.จะมีมติเห็นชอบให้ผู้ว่าฯ ย้ายไปดำรงตำแหน่งที่จังหวัดอ่างทองนั้น แต่สิ่งที่ตนอยากจะบอกกับพี่น้องชาวจังหวัดสมุทรสาครที่ให้ความรักและความเชื่อมั่นในการทำงานของผู้ว่าฯ มาตลอดคือ เวลาที่ผู้ว่าฯ จะยังคงอยู่กับพี่น้องชาวจังหวัดสมุทรสาครนั้นอีกหลายวัน และตนจะทำหน้าที่ให้เต็มที่ในทุกเวลาที่เรายังคงอยู่ที่นี่ สิ่งสำคัญที่อยากจะให้คนสมุทรสาครได้ยึดไว้เป็นหลักประกันที่สำคัญของชีวิตคือ เราเป็นคนสมุทรสาคร เราต้องรักกัน ช่วยเหลือกัน ผู้ว่าฯ ไม่ใช่คนที่นี่ ไม่ไปวันนี้ วันหน้าก็ต้องไป แต่คนสมุทรสาครยังคงต้องอยู่ที่นี่ ฉะนั้นคนสมุทรสาครยังคงต้องรักและสามัคคีกันไว้ เชื่อว่าปัญหาและอุปสรรค ณ วันนี้พวกเราต้องมีด้วยกันทุกคนแต่จะมีมากหรือมีน้อยขึ้นอยู่กับบทบาทหน้าที่ที่แตกต่างกันไป ดังนั้นขอให้ทุกคนทำให้ดีที่สุด แล้วชัยชนะจะตามมา ส่วนการรับไม้ ส่งไม้ต่อให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานีนั้น ก็คงจะต้องมีการพูดคุยหารือกันต่อไปในอนาคตหลังจากที่ทุกอย่างมีคำสั่งออกมาอย่างชัดเจนเสียก่อน

ท้ายที่สุดนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวด้วยว่า มติที่ออกมานั้น ตนเองก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา เพราะตนเป็นข้าราชการคนหนึ่ง แต่ก็ต้องขอขอบคุณที่เห็นว่าตนเองยังคงมีประโยชน์ต่อการทำงานในตำแหน่งนี้ต่อไป ขณะที่นายวุฒิภักร ลี้ทรัพย์ธนะโรจน์ เจ้าของร้านขายเสื้อกีฬา บอกว่า ความรู้สึกที่ตนมีกับผู้ว่าปู คือตนรู้สึกดีใจกับท่าน เพราะว่าตลอดเวลาที่ท่านอยู่ตนรู้สึกว่าท่านทำงานได้เต็มที่แล้วจริงๆ และผมคิดว่าคนในจังหวัดสมุทรสาครทุกคน ก็ยินดีกับท่านที่ท่านได้ย้าย เพราะเห็นท่านทำงานด้วยความทุ่มเทจริงๆ แต่ว่าเรื่องสุขภาพของท่าน คือทุกคนต้องเข้าใจ ถึงท่านจะไปทุกคนก็ยังคงจะพูดถึงท่าน และในปีสุดท้ายที่ท่านทำงานนั้นอยากให้ท่านทำงานด้วยความสบายใจ แต่ก็เชื่อว่าท่านต้องทำเพื่อประชาชนทุกวัน คือไม่มีวันไหนที่ท่านได้พักหรอกด้วยมุมที่ท่านเป็นคนทำงาน ก็อยากให้ท่านดูแลสุขภาพ สุขภาพแข็งแรง และอยู่กับประชาชนไปนานๆแล้วกันครับ

Related Articles