ธ.ก.ส. สมุทรสาคร ชวนลูกหนี้รายย่อยเกือบ 3 พันคน ร่วมมาตรการพักชำระหนี้

ธ.ก.ส. สมุทรสาคร ชวนลูกหนี้รายย่อยเกือบ 3 พันคน ร่วมมาตรการพักชำระหนี้
ธ.ก.ส. สมุทรสาคร ชวนลูกหนี้รายย่อยเกือบ 3 พันคน ร่วมมาตรการพักชำระหนี้
เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 6 ตุลาคม 2566 พ.อ.อ.พันธุ์พงศ์ กันทา ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดสมุทรสาคร ได้จัดแถลงข่าวเพื่อประชาสัมพันธ์ “มาตรการพักชำระหนี้ ให้กับลูกหนี้รายย่อย ตามนโยบายรัฐบาล” ณ ห้องประชุมสาระนาค สำนักงานสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จังหวัดสมุทรสาคร โดยมี นายณัฐวุฒิ เอกจิโรภาส นายกสมาคมผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรสาคร ผู้แทนประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร ผู้แทนสื่อมวลชน และคณะผู้บริหารของ ธ.ก.ส.ทุกสาขาในจังหวัดสมุทรสาคร เข้าร่วม ที่ห้องประชุมสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดสมุทรสาคร
พ.อ.อ.พันธุ์พงศ์ กันทา ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 และคณะกรรมการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ในคราวประชุมครั้งที่ 12/2566 วันที่ 22 กันยายน 2566 ได้เห็นชอบมาตรการพักชำระหนี้ให้กับลูกหนี้รายย่อยตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้กำหนดแนวทางการดำเนินมาตรการดังกล่าว ให้แก่เกษตรกรและบุคคลตามข้อบังคับ ฉบับที่ 44 และ 45 ที่มีต้นเงินคงเป็นหนี้คงเหลือทุกสัญญารวมกัน ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 ไม่เกิน 300,000 บาท และมีสถานะเป็นหนี้ปกติและหนี้ค้างชำระ เป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2569 โดยในส่วนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำนักงานจังหวัดสมุทรสาคร มีลูกค้าเป้าหมายที่มีคุณสมบัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์ได้รับสิทธิ์ จำนวน 2,979 ราย ต้นเงินที่ได้รับสิทธิ์ 386.45 ล้านบาท ลูกค้าที่ได้รับสิทธิ์ ได้แก่ ลูกค้าสาขาสมุทรสาคร จำนวน 1,009 ราย ต้นเงินที่ได้รับสิทธิ์ 118.03 ล้านบาท ลูกค้าสาขาบ้านแพ้ว จำนวน 1,515 ราย ต้นเงินที่ได้รับสิทธิ์ 208.08 ล้านบาท และ ลูกค้าสาขากระทุ่มแบน จำนวน 455 ราย ต้นเงินทีได้รับสิทธิ์ 60.34 ล้านบาท
ผอ.ธ.ก.ส.จังหวัดสมุทรสาคร ได้กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการที่ออกมานี้จะช่วยทั้งลดต้นและลดดอกไปพร้อมๆ กัน ซึ่งเป็นการลดภาระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ยังไม่ฟื้นตัวและกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง,เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกหนี้จากภาระดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นได้มีโอกาสนำเงินที่จะต้องจ่ายดอกเบี้ยมาลงทุนปรับเปลี่ยนหรือขยายการลงทุนในการประกอบอาชีพและฟื้นฟูตนเอง รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตให้ดียิ่งขึ้น
พ.อ.อ.พันธุ์พงศ์ กันทา ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดสมุทรสาคร กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับลูกหนี้รายย่อยที่สมัครใจเข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ฯ ตามนโยบายรัฐบาลระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2569 หลักฐานที่ต้องใช้มีเพียงเลขบัตรประชาชนและเบอร์โทรศัพท์เท่านั้น โดยแสดงความประสงค์เข้าร่วมมาตรการได้ 2 ช่องทาง คือ 1.ลงทะเบียนแสดงความประสงค์ ด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile หรือ 2.ติดต่อลงทะเบียนแสดงความประสงค์เข้าร่วมมาตรการได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขา ซึ่งก็จะพนักงานคอยให้คำแนะนำและช่วยเหลือให้ลูกหนี้แสดงความประสงค์เข้าร่วมมาตรการผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile ของผู้แสดงความประสงค์ หากพ้นกำหนดระยะเวลาจะไม่ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ ทั้งนี้จึงขอเชิญชวนลูกหนี้รายย่อยของ ธ.ก.ส.ทุกสาขาในจังหวัดสมุทรสาครที่เข้าหลักเกณฑ์เกือบ 3 คน มาแสดงตนเข้าร่วมโครงการให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อโอกาสที่ดีในการผ่อนชำระหนี้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และโอกาสที่ดีในการนำดอกเบี้ยที่ได้ลดหย่อนไปใช้เพื่อการขยายโอกาสหรือช่องทางในการต่อยอดสร้างอาชีพ

Related Articles