นายก อบจ.สมุทรสาคร ยันไม่ท้อ หลัง กกต.ชี้ใบเหลือง พร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ส่วน สจ. ฅนทำงานยังอยู่ดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป
ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีคำวินิจฉัยที่ 1274/2564 ซึ่งมีใจความพอสังเขปว่า “คณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับคำร้องว่า นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร หมายเลข 3 ผู้ถูกร้องที่ 1 นายสุรวัช เรืองศรี ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร อำเภอกระทุ่มแบน เขตเลือกตั้งที่ 5 หมายเลข 5 ผู้ถูกร้องที่ 2 นายอภิชาต โพธิ์ถนอม ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้ถูกร้องที่ 3 และนายพงศธร ลิมปนเวทย์สกุล ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้ถูกร้องที่ 4 ได้มีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 65 (1) กล่าวคือ ผู้ถูกร้องที่ 1 ก่อสนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจให้ผู้ถูกร้องที่ 2 จัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด อันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น….
…จึงมีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาคเพื่อสั่งให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาครใหม่ แทนนายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ และสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายสุรวัช เรืองศรี ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือ ผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 108 วรรคสอง รวมทั้งให้ดำเนินคดีอาญาแก่นายสุรวัช เรืองศรี ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 65 (1) ประกอบมาตรา 126 และให้ยกคำร้องผู้ถูกร้องที่ 3 และผู้ถูกร้องที่ 4” นั้น
ต่อมาหลังจากที่มีการเผยแพร่สะพัดออกไปตามสื่อและโลกโซเชียลนั้น ก็ได้มีประชาชนชาวสมุทรสาครและจังหวัดอื่นๆ ที่ทราบเรื่องราวต่างก็ได้แสดงความคิดเห็นกันไปอย่างหลากหลาย แต่ที่มีผู้เข้ามาวิพากวิจารณ์อย่างมากคือ คำสั่งของ กกต.ที่พิจารณาให้ใบเหลืองกับ นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายกอบจ.สมุทรสาคร เนื่องด้วยหลายคนเห็นว่า เป็นคำตัดสินที่ไม่เป็นธรรมต่อนายก อบจ.สมุทรสาคร เหตุเพราะต้นตอของปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นไม่เกี่ยวกับนายอุดมโดยตรง แต่ต้องมาถูกร้องเรียน อีกทั้ง กกต.ยังชี้มูลความผิดเพื่อขอให้ศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาคสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่แทนนายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ ซึ่งผู้ที่ได้แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวแล้วมีผู้ให้ความสนใจเข้าไปอ่านติดตามจำนวนมากนั้น ก็เช่นใน เฟซบุ๊กของ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. และ อดีตผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาคร เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้ออกมาโพสต์ข้อความว่า ไม่เห็นด้วยที่ กกต.สั่งให้ใบเหลือง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร เพราะเหตุผลนั้นเป็นเรื่องที่เล็กน้อยมาก อีกทั้งผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวก็ไม่ได้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง และหากจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ก็ต้องสูญเสียงบประมาณไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท นอกจากนี้ยังกระแซะขอให้มีการตรวจสอบบุคคลในสำนักงาน กกต.กลางบางท่านอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังผู้ออกมาแสดงความเห็นใจและให้กำลังใจแก่นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ เป็นจำนวนมาก
ด้านนายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความเพียงสั้นๆ ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า “ขอบคุณทุกกำลังใจ ผมไม่ท้อครับ ผมพร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ 131,537คะแนนที่ชาวสมุทรสาครมอบให้ผมครับ”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมถึงที่มาที่ไปในคำตัดสินของ กกต.ที่ชี้ให้ใบเหลืองแก่นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ.สมุทรสาครนั้น เนื่องมาจากก่อนหน้านี้ ประมาณเดือน ตุลาคม – พฤศจิกายน 2563 มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งรายหนึ่งได้ติดต่อขอให้นายสุรวัช เรืองศรี (ผู้ถูกร้องที่ 2 อดีตผู้สมัคร ส.อบจ.เขต 5 กระทุ่มแบน ในนามผู้สมัครอิสระไม่สังกัดทีมใด) ช่วยฝากหลานเข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในสังกัดของเทศบาลเมืองกระทุ่มแบน ซึ่งนายสุรวัชฯ ได้แนะนำให้พูดคุยกับบิดา และต่อมาปรากฎว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวสามารถนำหลานเข้าเรียนได้ตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ จากนั้นผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวได้ส่งข้อความขอบคุณนายสุรวัช ทางแอพพลิเคชั่นไลน์ที่นายสุรวัชและบิดาของนายสุรวัชช่วยเหลือให้หลานสาวได้เข้าโรงเรียนตามที่ประสงค์ โดยปรากฏภาพการสนทนาที่นายสุรวัชได้นำไปโพสต์ในบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “สุรวัช เรืองศรี” เมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2563 ซึ่งการที่นายสุรวัชโพสต์บทสนทนาระหว่างตนกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวในบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ได้ช่วยฝากหลานของผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวเข้าโรงเรียนเรียบร้อยแล้วและขอให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวลงคะแนนให้แก่นายอุดม” ด้วยเหตุแห่งการกระทำของนายสุรวัช เช่นนี้ทำให้ กกต.พิจารณาเห็นว่า มีลักษณะเป็นการแสวงหาคะแนนนิยมจากประชาชนหรือสมาชิกในกลุ่มเฟซบุ๊ก ที่พบเห็นให้ลงคะแนนให้แก่นายอุดม จึงเข้าลักษณะเป็นการจัดทำ ให้ เสนอให้สัญญา ว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่นายอุดม ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 65 (1) โดยนายอุดมย่อมได้รับประโยชน์ในการเลือกตั้งจากการกระทำของนายสุรวัช เป็นเหตุให้ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.สมุทรสาครในส่วนที่เกี่ยวข้องกับนายอุดมเกิดจากการเลือกตั้งที่ไม่ได้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรมตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 108 วรรคสอง…นั่นเอง