เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2563 เวลาประมาณ 08.45 น เกิดเรื่องน่าชื่นชมระหว่างการแข่งขัน เดิน – วิ่ง มินิฮาล์ฟมาราธอนเฉลิมพระเกียรติ โครงการสานพลังท้องถิ่นไทยถวายพ่อของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยจัดขึ้นที่วัดท่ากระบือ ต.บางยาง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งมีนักวิ่งทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นเข้าร่วมการแข่งขันกว่า 3,000 คน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครเป็นประธานเปิดการแข่งขัน ซึ่งเงินรายได้จากการแข่งขันจะร่วมนำไปสมทบ จัดตั้งกองทุนการศึกษาบรมราชาภิเษก 4 พฤษภาคม 2562 ในมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้า เพื่อเป็นทุนการศึกษาของเยาวชนผู้ยากไร้ ด้อยโอกาสจากท้องถิ่นทั่วประเทศ
ส่วนเหตุการณ์ที่น่าชื่นชมเป็นเรื่องของความซื่อสัตย์ สุจริต เมื่อผู้เข้าร่วมการแข่งขันกลุ่มหนึ่ง เป็นพนักงานบัญชีของโรงทอผ้าใบไนล่อนชัยศิริ ได้เก็บสร้อยข้อมือทองคำได้ในระหว่างเส้นทางที่วิ่งแข่งขัน และเมื่อทั้งหมดวิ่งกลับมาถึงจุด Finnish หรือเส้นชัย ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองอำนวยการ ก็ได้มาแจ้งยังคณะกรรมการจัดงานเพื่อประกาศหาเจ้าของสร้อยข้อมือ โดยขณะนั้น นายจอม หงษเวียงจันทร์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งกำลังดำเนินงานเป็นพิธีกรการแข่งขัน จึงได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่ามีนักวิ่งเก็บของมีค่าได้ หากใครทำของมีค่าหายให้มาแสดงตัว โดยไม่บอกว่าของมีค่านั้นเป็นสิ่งใด
จากนั้นไม่มีนักวิ่งสาวประมาณ 2-3 คน ได้เดินมาแจ้งกับทางพิธีกรว่าทำของมีค่าตกหาย จึงได้มีการสอบถามลักษณะของสิ่งของมีค่า โดยผู้ที่แจ้งเป็นเจ้าของนั้นสามารถระบุลักษณะของสร้อยข้อมือทองคำได้ตรงตามข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่จึงได้ให้ผู้ที่เก็บได้ทราบเพียงชื่อเล่นว่า เปิ้ล กับเพื่อน ส่งมอบสร้อยข้อมือทองคำคืนท่ามกลางความชื่นชมของพยานที่สนใจเข้ามาร่วมดูเหตุการณ์ ซึ่งสร้อยข้อมือดังกล่าวมีน้ำหนัก 2 สลึง โดยเจ้าของสร้อยข้อมือกล่าวด้วยความดีใจที่ได้สร้อยข้อมือทองคำคืนมาว่า ตนเองไม่รู้เลยว่าสร้อยหล่นหายตอนไหนมารู้ตัวอีกครั้งสร้อยข้อมือหายก็เมื่อตอนที่วิ่งเข้าเส้นชัยแล้ว